10-เพลงต้องฟังก่อนนอน-เพื่อให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

10 เพลงต้องฟังก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

10 เพลงต้องฟังก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

คุณเคยนอนไม่หลับ นอนหลับยาก หรือหลับไม่สนิทบ้างไหมคะ หากเคยบ่อย ๆ คุณคงจะเข้าใจดีว่าพอตื่นขึ้นมาอีกวันจะรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ แถมเห็นอะไรก็หงุดหงิดไปหมด และหากคุณนอนไม่หลับหลายคืนเข้าความทรมานก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  วันนี้เรามีหนทางดี ๆ มาช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น แค่ฟังเพลงเหล่านี้ก่อนนอนค่ะ

1.เพลง  Monday ของ แมตต์ คอร์บี

เพลงนี้มีเสน่ห์ตรงที่ แมตต์ คอร์บี ร้องเพลง โดยที่ไม่มีเครื่องดนตรีประกอบ มีเพียงจังหวะของการตบมือที่สอดคล้องกันดีกับเสียงฮัมเบา ๆ และเนื้อเพลงหวานหู ที่ฟังแล้วจะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น

2.เพลง Monsoon ของ Hippo Campus

Monsoon ของ Hippo Campus เป็นเพลงที่มีเสียงร้องอันนุ่มนวลฟังสบาย ๆ  บวกเข้ากับเสียงกีตาร์เบา ๆ  ทำนองกลาง ๆ  ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป การเปิดเพลงนี้ก่อนนอนจะช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนนับแกะหลายเท่า

3.เพลง Lostmyhead  ของ เดอะ 1975

เพลงนี้เป็นเพลงซิมโฟนี 5 นาทีที่ไพเราะมาก เมื่อฟังจะรับรู้ได้ถึงการตกอยู่ในห้วงของภวังค์แห่งความฝัน ช่วยให้สมองผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้น

4.เพลง The Colour In Anything ของ James Blake

เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังดูเรียบง่าย ที่ประกอบไปด้วยเสียงร้องของ James Blake และเสียงเปียโนที่อ่อนโยน ให้ความรู้สึกรื่นรมย์ สบายหู เหมาะสำหรับใช้เป็นเพลงกล่มเด็กที่ทันสมัยหรือเป็นเพลงที่ใช้เยียวยาคนอกหัก

5.เพลง Loveless ของ Lo Moon

เพลงนี้จะมีเนื้อเพลงที่ฟังสบาย บวกเข้ากับเสียงร้องอันนุ่มนวล ผสานกับกีตาร์โปร่งที่มีเสียงคมชัด ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นและมีมนต์ขลัง ทำให้สมองได้ผ่อนคลายและหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

6.เพลง Still ของ The Japanese House

เพลงป๊อปเรียบง่าย ด้วยทำนองบวกเนื้อร้องที่นิ่ง ๆ ฟังแล้วช่วยให้ความเครียดที่สะสมอยู่ระเหยออกไป ช่วยให้คุณรู้สึกเบาสบายขึ้นเหมือนอยู่ในสภาวะที่ไร้แรงโน้มถ่วง ปล่อยใจให้โบยบิน

7.เพลง Blue Light ของ Mazzy Star

เพลงยุค 90ที่นุ่มนวล ทำนองเพลงช้า ๆ เสียงร้องเบา ๆ เหมือนพึมพำไปเรื่อย ๆ แต่ฟังสบายและช่วยให้รู้สึกเบา โปร่ง โล่งและยิ้มได้

8.เพลง The Peaks ของ Lewis Watson feat. Kimberly Anne

เพลงที่มีเสียงร้องอันอบอุ่น  ฟังรื่นหู ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและปล่อยใจให้ลอยตามไปกับเสียงและทำนองเพลง ฟังแล้วเหมือนกำลังนอนกอดผ้าห่มอุ่น ๆ หรือกอดอยู่กับคนรักอย่างมีความสุข

9.เพลง All Is Now Harmed ของ Ben Howard

เพลงนี้ถึงจะเป็นเพลงเศร้าที่ประกอบอารมณ์ให้ลุ่มลึกด้วยเสียงกลอง แต่ฟังแล้วกลับรู้สึกอ่อนโยน และเพิ่มความผ่อนคลายได้ดี

10.เพลง River ของ Leon Bridges

เป็นเพลงที่ชักจูงอารมณ์คนฟังได้อย่างดี ด้วยยังมีเสียงร้องที่นุ่มนวลกับทำนองเพลงที่ไพเราะ ทำให้เพลงนี้เหมาะมากสำหรับเปิดเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายหลังจากตรากตรำกับการทำงานหนักหรือการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย

ดนตรีเบา ๆ กับเสียงร้องที่นุ่มนวลจะช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจของเราที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการใช้ชีวิตในระหว่างวันได้พักและมีเวลาฟื้นฟู การปล่อยให้ความเครียดเข้าครอบงำมากเกินไปจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้นอนหลับได้ยาก ดังนั้นหากคุณเหนื่อย ๆ ลองเปิดเพลงเหล่านี้คลอเบา ๆ ช่วงเย็นถึงก่อนนอนจะช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ อย่าลืมลองฟังดูนะคะ การนอนหลับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อใช้ อบอวล สเปรย์อโรม่า เพื่อการนอนหลับ

ฟังดนตรีในเวลาไหนบ้างที่จะช่วยลดความเครียดได้

ฟังดนตรีในเวลาไหนบ้างที่จะช่วยลดความเครียดได้

ฟังดนตรีในเวลาไหนบ้างที่จะช่วยลดความเครียดได้

ดนตรีสามารถเยียวยาความรู้สึกของเราได้ ยิ่งหากเรารู้สึกเครียด วิตกกังวลหรือสับสน การเปิดดนตรีเบาๆ แล้วปล่อยใจให้ลอยไปตามท่วงทำนองอันแสนไพเราะของเสียงดนตรี นอกจากจะช่วยยกระดับอารมณ์แล้ว การฟังดนตรีในช่วงเวลาต่าง ๆ ก็ยังมีประโยชน์แอบแฝงอันน่าทึ่ง เช่น

1.ฟังเพื่อเตรียมความพร้อมของตนเองสำหรับวันใหม่

หลังจากตื่นนอนคุณสามารถปลุกความมีชีวิตชีวาและพลังงานใหม่ ๆ ตัวเองขึ้นมา โดยการเลือกฟังเพลงที่เหมาะสม เช่น ดนตรีคลาสสิกหรือดนตรีบรรเลง โดยเพลงเหล่านี้จะช่วยให้คุณสงบและมีสมาธิ ยิ่งหากวันไหนที่มีภารกิจอันสำคัญและยิ่งใหญ่ต้องไปทำ การฟังดนตรีเหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณได้รับพลังงานดี ๆ มีรอยยิ้มและพร้อมรับกับทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างชาญฉลาด

2.ฟังเพลงระหว่างการเดินทาง

การเดินทางไปทำงานหรือไปสถานที่อื่น ๆ คุณอาจจะต้องพบเจอกับความหงุดหงิดและความโกรธ การฟังเพลงในระหว่างเดินทางนั้นจะช่วยลดอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณหัวเสียกับการจราจรที่ติดขัดให้น้อยลงด้วย

3.ฟังเพลงระหว่างทำอาหาร

โภชนาการที่ดีจะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น แต่คุณผู้หญิงหลายคนที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ต้องมาทำงานบ้านต่ออีก โดยสิ่งที่น่าเหนื่อยหน่ายมากที่สุดก็คือการทำอาหาร แต่หากไม่ทำเองก็เกรงว่า คนในครอบครัวจะได้สารอาหารไม่ครบ โดยเฉพาะลูก ๆ ทำให้คุณผู้หญิงมักหงุดหงิดและหัวเสียเวลาปรุงอาหาร  การฟังเพลงในระหว่างปรุงอาหารจะช่วยลดความตึงเครียดตรงส่วนนี้ลงได้  อีกทั้งยังช่วยให้คุณเพลิดเพลินและรังสรรค์เมนูดี ๆ ได้อีกมากมาย โดยเพลงที่แนะนำก็จะเป็นเพลงแจ๊สหรือดนตรีที่มีจังหวะนุ่มนวล 

4.ฟังเพลงในตอนกินอาหาร

คนที่เบื่ออาหารเมื่อได้ฟังเพลงที่ผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้กินอาหารได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการฟังเพลงในระหว่างการกินอาหารยังช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้นอีกด้วย

5.ฟังเพลงตอนทำความสะอาด

การทำความสะอาดก็เป็นอีกเรื่องที่นาเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก ยิ่งหากต้องทำหลังจากตรากตรำกับงานที่ยุ่งเหยิงมาทั้งวันแล้ว ก็แทบจะล้ากันเลยทีเดียว แต่การฟังเพลงในตอนทำความสะอาดนั้นจะช่วยเพิ่มพลังและทำให้คุณรู้สึกสนุกกับการทำความสะอาดซึ่งเพลงที่แนะนำในการเปิดฟังตอนทำความสะอาด ได้แก่ เพลงที่ค่อนข้างมีพลังและสนุกสนาน เช่น เพลงฮิปฮอปหรือเพลงป๊อป เป็นต้น

6.เมื่อทำบิลค่าใช้จ่าย

แม่บ้านเวลาต้องทำบิลค่าใช้จ่ายนี้คงจะเครียดและหนักใจกันเป็นแถบ ๆ แต่หากคุณเปิดเพลงฟังในช่วงเวลานี้ เสียงดนตรีก็จะช่วยให้คุณเพลิดเพลิน สบายใจและไม่เครียด

7.ฟังเพลงก่อนนอน

การฟังเพลงก่อนนอนให้ผลลัพธ์ที่ดีมากสำหรับการนอนหลับ เพราะจะช่วยให้จิตใจและร่างกายผ่อนคลาย สามารถหลับได้ง่ายและหลับได้อย่างสนิท  ซึ่งดนตรีที่เหมาะสำหรับการเปิดฟังก่อนนอนคือ ดนตรีบรรเลงหรือดนตรีคลาสสิกจังหวะเบา ๆ ที่ช่วยชะลอการหายใจ นอกจากนี้การฟังเสียงฝน เสียงลม เสียงคลื่นหรือเสียงนกร้องก็ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายได้ดีค่ะ

จะเห็นได้ว่า การฟังดนตรีให้ถูกช่วงเวลานั้น จะช่วยทำให้คุณได้รับประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย ดังนั้นลองหาเวลาหลีกเลี่ยงจากความวุ่นวายในแต่ละวัน มาเปิดเพลงฟังเบา ๆ เพื่อเยียวยาและรักษาจิตใจให้แจ่มใสและเบิกบานไปด้วยกันค่ะ

ตั้งครรภ์นอนไม่หลับทำไงดี

ตั้งครรภ์นอนไม่หลับทำไงดี

https://youtu.be/bEGMsVtejgU

ตั้งครรภ์นอนไม่หลับทำไงดี

ขึ้นชื่อว่าคนท้องย่อมมีอารมณ์ที่แปรปวนกว่าคนปกติ ยิ่งการนอนไม่หลับก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้น เมื่อเครียดมากๆก็ไม่ดีกับลูกในท้อง บางรายเครียดมากพาลด่าสามีไปด้วยซะงั้น ยิ่งทำให้บรรยากาศในครอบครัวอึมครึมไปกันใหญ่เลยนะคะ และวันนี้ sleep story ของเราก็จะมาพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักรวมถึงวิธีแก้ปัญหาการนอนไม่หลับสำหรับคนท้องกันค่ะ

คนท้องนะคะจะพบว่าตนเองนอนหลับได้มากยิ่งขึ้นแค่ในช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้นแต่หลังจากนั้นจะนอนหลับได้น้อยลงเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดวัน ซึงสาเหตุที่ทำให้คนท้องนอนไม่หลับนั้นมีได้หลายอย่าง เช่น

1.ปวดฉี่บ่อยๆ

2.อาการคลื่นไส้และอาเจียน

3.ปวดหลัง

4.รู้สึกไม่สบายท้อง

5.ปวดขา

6.หายใจถี่

7.อารมณ์หงุดหงิด ความเครียดและความวิตกกังวล

8.เจ็บคดตึงที่เต้านม

9.เสียดท้อง อาหารไม่ย่อย

แล้วอย่างนี้ ถ้าคนท้องนอนไม่หลับควรทำยังไง ลองดูเทคนิคดีๆเหล่านี้ค่ะ

จัดการและปรับปรุงกิจวัตรประจำวันก่อนนอน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถทำได้เพื่อจัดการกับการนอนไม่หลับในตอนตั้งท้องนั้นก็คือ การสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีค่ะ เริ่มต้นด้วย พยายามเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกคืน และเลือกทำกิจกรรมที่ช่วยในการผ่อนคลายต่างๆ เช่น ทำสมาธิ ฟังเพลงเบาๆ ทำจิตใจให้สบายๆ หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน หากนอนไม่หลับจริงๆก็อย่ารีบหยิบมือถือขึ้นมาดู ลองเปลี่ยนมาอ่านหนังสือแทนจะช่วยเพิ่มการง่วงนอนได้ดี นอกจากนี้นะคะการอาบน้ำอุ่นๆก่อนนอนก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและทำให้ง่วงนอนได้ง่าย แต่ควรระวังเรื่องอุณหภูมิของน้ำที่อาบ ไม่ควรร้อนจนเกินไปเพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อพัฒนาการของลูกน้อยได้

สำหรับเรื่องของอาหารและการออกกำลังกายก็สำคัญต่อการนอนหลับสำหรับคนท้องมากค่ะ เช่น การดื่มน้ำนะคะ ให้ดื่มน้ำเยอะๆตลอดทั้งวัน แต่ลดปริมาณการดื่มน้ำลงหลัง 1 ทุ่ม และพยายามเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมา

สำหรับการกินมื้อเย็นของคนท้องนะคะ พยายามเคี้ยวให้ละเอียดและกินอย่างช้าๆเพื่อลดการเสียดท้อง หรือหากกินอาหารมื้อเย็นให้เร็วขึ้นก็ช่วยได้ดี แต่บางครั้งการกินมื้อเย็นเร็วเกินไปก็อาจจะทำให้หิวตอนกลางคืนได้ แต่หากเกิดหิวตอนกลางคืนขึ้นมาจริงๆก็ให้กินของว่างเบาๆ เช่น นมอุ่นๆสักหนึ่งแก้วก็ช่วยให้นอนหลับได้ดีค่ะ

สำหรับการออกกำลังกายสำหรับคนท้องนะคะควรออกกำลังกายแบบเบาๆในตอนกลางวันเพื่อช่วยให้นอนหลับสบายในตอนกลางคืนค่ะ

นอกจากนี้นะคะปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับทั้งหลายก็ไม่ควรมองข้าม เช่น  ห้องนอน ก็ควรเลือกเครื่องนอนที่ทำให้นอนหลับสบาย ไม่ว่าจะเป็น หมอน ผ้าห่ม เตียงนอน รวมไปถึงชุดนอน ความมืด อากาศและบรรยากาศที่เงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน

หากคุณเข้าไปนอนแล้วนอนยังไงก็นอนไม่หลับ ให้ลุกขึ้นมาแล้วหาอะไรบางอย่างทำ เช่น อ่านหนังสือหรือ ฟังเพลงเบาๆ จนกว่าจะรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากจะหลับ ซึ่งวิธีนี้มันจะดีกว่าที่คุณจะนอนหงุดหงิดอยู่บนเตียงจ้องมองนาฬิกาแล้วพยายามข่มตาให้หลับ

สำหรับคนท้องนะคะหากพบว่าตัวเองนั้นนอนหลับยากหรือนอนไม่ค่อยหลับ แล้วมีอาการเหนื่อยล้า ให้ลองงีบหลับในตอนกลางวันเข้าช่วย แต่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริม ยา หรือสมุนไพรใดๆก็ตามที่จะทำให้นอนหลับจนกว่าจะได้ปรึกษาหรือพูดคุยกับคุณหมอโดยตรง เพราะสิ่งเหล่านั้นหากไม่ใช้ให้ถูกวิธีแล้ว อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ค่ะ

การนอนหลับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อใช้ อบอวล สเปรย์อโรม่า เพื่อการนอนหลับ

เทคนิคง่ายๆทำให้คุณหลับได้ภายใน 2 นาที ทางออกของคนนอนไม่หลับ

เทคนิคง่ายๆทำให้คุณหลับได้ภายใน 2 นาที ทางออกของคนนอนไม่หลับ

ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาการนอนไม่หลับ นอนหลับยาก นอนหลับๆตื่นๆวันนี้ sleep story เรามีทางออกดีๆมาบอกคุณค่ะ คุณรู้ไหมคะว่าการควบคุมการหายใจแบบง่ายๆจะสามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่าง่ายดายเลยทีเดียวค่ะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าเคล็ดลับการหายใจแบบลึกอาจทำให้คนที่มีปัญหาในการนอนหลับหลับได้ง่ายขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้น

เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8 เป็นเทคนิคการผ่อนคลายอย่างรวดเร็วโดยผู้เชียวชาญด้านการนอนหลับอย่าง  ดร.แอนดรูว์ ไวน์ ได้กล่าวว่าเทคนิคนี้ทำงานโดยการสงบจิตใจและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นวิธีที่ง่ายมากๆไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเข้าช่วยเลย และสามารถทำได้ทุกที่ที่คุณต้องการ

เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8 ได้มาจากโยคะ ซึ่งการหายใจแบบโยคะ คุณต้องหายใจเข้าเบาๆผ่านจมูกแล้วหายใจออกแรงๆด้วยการเป่าลมออกมาทางปาก โดยขั้นตอนในการทำนั้นไม่ยุ่งยากอะไรเลย เริ่มต้นจาก การหายใจเข้าโดยการปิดปากแล้วสูดลมหายใจเข้าอย่างเงียบๆ นับในใจ 1-4 จากนั้นกลั้นหายใจนับในใจ 1-7 เสร็จแล้วหายใจออกผ่านทางปากนับ 1-8 ทำซ้ำประมาณ 2-4 ครั้ง ดร.ไวน์บอกว่ามันทำงานได้ดีเพราะช่วยให้ปอดได้รับอากาศอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายของเราได้รับออกซิเจนมากขึ้น โดยออกซิเจนเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายสร้างภาวะสงบ ทำให้จิตใจสงบและปลดปล่อยความเครียดและวิตกกังวล

คุณอาจจะหายใจแบบ 4-7-8 นี้ในระหว่างวันก็ได้มันจะช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายและง่ายต่อการนอนหลับพักผ่อน วีนี้มีพื้นฐานมาจากการปฏิบัติของคนอินเดียโบราณที่เรียกกันว่า ปราณายามะ ซึ่งหมายถึงการควบคุมการหายใจและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในโยคะและพิลาทิส การหายใจลึกๆอาจทำให้ร่างกายรู้สึกเครียดในตอนแรกๆแต่การหายใจเข้าลึกๆนั้นจะกระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนองทางตรงข้ามนั่นคือทำให้เราสงบลง

ดร.ไวน์กล่าวว่า เคล็ดลับความสำเร็จของการหายใจแบบ 4-7-8 นี้ เราต้องฝึกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อที่คุณจะนอนหลับได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที เมื่อเราทำต่อเนื่องกันจนครบระยะเวลาแล้วมันจะส่งผลอย่างดีเยี่ยมและยังช่วยให้คุณจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนนอนไม่หลับเทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8 สามารถช่วยคุณได้ ฝึกบ่อยๆเราจะได้มีสุขภาพจิตที่ดีบวกกับสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วยค่ะ

การนอนหลับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อใช้ อบอวล สเปรย์อโรม่า เพื่อการนอนหลับ

5 ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ยานอนหลับ

5 ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ยานอนหลับ

https://youtu.be/9RJ6jwIGAX8

ยานอนหลับเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ กับ 5 ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ยานอนหลับ

เมื่อเวลาต้องเอนตัวลงนอนในตอนกลางคืน ใครเคยจ้องมองเพดานแล้วคิดถึงเรื่องงาน เรื่องค่าใช้จ่าย หรือเรื่องอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมดไหมคะ ก่อนหน้านี้ตัวดิฉันเองก็เคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไม้ ทำไม เราต้องมาคิดอะไรต่างๆเอาตอนที่ต้องนอน บางครั้งง่วงก็ง่วง แต่หัวสมองเจ้ากรรมก็ไม่ยอมหยุดคิด  พอคิดต่อไปก็กลายเป็นนอนไม่หลับไปซะงั้น และเมื่อนอนไม่หลับ จึงมีคนสาวนหนึ่งที่ตัดสินใจใช้ยานอนหลับ เพื่อให้ตัวเองหลับไปในทันที

แรกๆมันอาจจะใช้ได้ผลและทำให้หลับไปอย่างง่ายดาย แต่หากคุณใช้มันบ่อยๆ เอ๊ะอะนอนไม่หลับ ก็เรียกหายานอนหลับ นั้น เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งคุณจะพบว่า คุณจะมีปัญหานอนหลับยากมากยิ่งขึ้นในระยะยาว

แต่ที่พูดมานี่ไม่ได้หมายความว่าห้ามคุณใช้ยานอนหลับเลยนะคะ แต่อยากจะให้เพื่อนๆลองชั่งน้ำหนักของประโยชน์ที่ได้รับกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากการใช้ยานอนหลับดูก่อนที่จะตัดสินใจใช้มันจริงๆ เนื่องจาก ยานอนหลับถือว่าช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเราใช้อย่างจำกัด นั่นหมายความว่า เราต้องใช้ในระยะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น  ขึ้นชื่อว่า ยา นะคะ จะดีเลิศขนาดไหน ยังไงก็จะมีผลข้างเคียงตามมาเสมอ  และจากนี้ต่อไปนะคะ sleep story จะมาบอกถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการใช้ยานอนหลับค่ะ เผื่อว่าถ้าเพื่อนๆท่านใดกำลังคิดจะใช้วิธีนี้อยู่ ลองฟังข้อมูลแล้วตัดสินใจด้วยตัวเองดีๆอีกครั้งค่ะ ซึ่งผลข้างเคียงของการใช้ยานอนหลับได้แก่

1.ง่วงหงาวหาวนอนอยู่ตลอดเวลาในตอนกลางวัน ซึ่งอาการง่วงนอนนี้ คุณอาจจะต้องใช้ความอดทนมากเป็นพิเศษเมื่อคุณต้องทำงาน เรียนหนังสือหรือทำกิจวัตรต่างๆและเมื่อคุณต้องฝืนทำทั้งๆที่ง่วงนอนก็อาจจะส่งผลเสียต่อการทำงาน การเรียน หรืออาจเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายร้ายแรงตามมาได้

2.คุณอาจติดยานอนหลับได้ การที่คุณต้องใช้ยานอนหลับเป็นประจำนั้น อาจจะทำให้คุณติดยานอนหลับ เพราะยานอนหลับบางอย่างถึงแม้จะจ่ายโดยตรงจากแพทย์ก็ยังสามารถทำให้ติดได้ และเมื่อติดแล้ว ก็ยากมากที่จะหยุดทานได้

3.อาจจะมีอาการเหงื่อออก คลื่นไส้และใจสั่น

4.ปฏิกิริยาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับยาด้วยกันเอง ในกรณีนี้หมายถึง เมื่อคุณใช้ยานอนหลับร่วมกับยาอื่นๆ  เช่น ยาแก้ปวด หรือ ยากล่มประสาท ซึ่งยาเหล่านี้อาจจะทำปฏิกิริยาบางอย่างต่อกัน และอาจจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่แย่ลง 

5.เมื่อหยุดยาก็จะนอนไม่หลับมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณต้องใช้ต่อไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด

นอกจากนี้ผลข้างเคียงอื่นๆที่พบบ่ายในคนที่ใช้ยานอนหลับได้แก่ รู้สึกง่วงนอนมากๆในวันถัดไป มีอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ, ท้องผูก, ปากแห้ง, เดินไม่ค่อยตรง, วิงเวียนศีรษะบ่อยๆ และร้ายแรงที่สุดคือ อาจมีอาการแพ้ทำให้หน้าบวม มีภาวะความจำเสื่อม หรือเกิดภาพหลอนได้

และนี่ก็คือผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ยานอนหลับนะคะ เผื่อว่าเพื่อนๆท่านใดกำลังจะติดสินใจใช้ก็ลองวิเคราะห์ดูว่ามันคุ้มที่จะเสียงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือ หากคุณตัดสินใจใช้ยานอนหลับเพื่อรักษาอาการในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นก็ค่อยๆปรับพฤติกรรมเข้าช่วยก็ถือว่าไม่ผิดกติกาอะไร แต่หากใช้ความขี้เกียจอยากหาทางลัดโดยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นอนไม่หลับก็เรียกหายานอนหลับตลอด นั่นอาจจะทำให้เมื่อคุณไม่ได้กินยานอนหลับ คุณก็จะนอนไม่หลับเลย อีกทั้งเมื่อใช้ยาต่อเนื่องนานเข้าก็เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว  ขอฝากให้เพื่อนๆที่กำลังจะใช้ยานอนหลับ ชั่งน้ำหนักดูดีๆนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเพื่อนๆเอง ด้วยความเป็นห่วงจาก sleep story ค่ะ

7 ข้อดีของการเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม

7 ข้อดีของการเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม

https://youtu.be/lceUaXzB9Fo

7 ข้อดีของการเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม

ใครๆ ก็อยากมีสุขภาพดี จึงพยายามหาอาหารเสริมแสนแพงต่างๆมาบำรุง แต่รู้ไหมคะว่าเราสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์ได้ง่ายๆเพียงแค่เข้านอนให้มันเร็วขึ้นค่ะ

การเข้านอนก่อน 4 ทุ่มนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างปกติแล้ว ยังช่วยลดการเกิดโรคภัยร้ายแรงต่างๆได้ ซึ่งที่เราจะพูดต่อไปนี้นะคะก็คือเหตุผลที่คุณควรจะรีบเข้านอนให้ไวขึ้นค่ะ

1.ช่วยบำรุงหัวใจและป้องกันโรคมะเร็ง

การนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืนจะช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดในสมอง อีกทั้งการที่ฮอร์โมนเมลาโทนินได้หลั่งออกมาเป็นปกติจะช่วยควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้

2.ช่วยลดความเครียดและลดการอักเสบ

ร่างกายของคนเราถ้าไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็จะเกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งความเครียดจะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากกว่าปกติทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบต่างๆของร่างกาย ดังนั้นการนอนก่อน 4 ทุ่ม จะเป็นตัวช่วยทางหนึ่งที่จะยับยั้งการหลั่งคอร์ติซอล ทำให้ร่างกายเกิดความสงบและได้ฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆได้ดี

3.ลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า

เนื่องจากการนอนหลับระหว่าง 7-9 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายหลั่ง เซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขและความสงบ ซึ่งงานวิจัยหลายงานวิจับพบว่า คนที่มีภาวะซึมเศร้า มักเกิดจากความบกพร่องของ เซโรโทนิน

4.ช่วยลดน้ำหนัก

นักวิจัยพบว่า คนที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินได้ง่ายง่ายคนที่นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม เพราการนอนหลับที่ไม่เพียงพอทำให้ฮอร์โมนต่างๆของร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้ ฮอร์โมน ghrelin และleptin ที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหารไม่ทำงาน ดังนั้นหากคุณต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักอย่างง่ายๆขั้นแรกคือ ต้องนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน

5.ช่วยให้ดูอ่อนวัยตลอดเวลา

การได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ระบบย่อยอาหาร เช่น ตับ ไต ลำไส้ ทำงานได้ดี และช่วยลดการท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ อีกทั้งการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขต่างๆออกมาสารเหล่านี้จะดีทั้งต่อร่างกายและผิวพรรณ ลองสังเกตดูว่า คนที่นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน จะดูอ่อนวัยและผิวพรรณสดใสกว่าคนที่นอนไม่พอ

6.ลดการปวดประจำเดือน

การปวดประจำเดือนเป็นผลกระทบอย่างหนึ่งเมื่อร่างกายเกิดความเครียด  การนอนเร็วหรือนอนหลับอย่างเพียงพอ จะช่วยควบคุมความเจ็บปวดและลดการอักเสบต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น  ดังนั้นผู้หญิงที่มักจะมีปัญหาปวดประจำเดือนควรเข้านอนให้เร็วขึ้น

7.ช่วยให้เป็นคนมีความสุข อารมณ์ดี น่าเข้าใกล้

การนอนหลับที่เพียงพอนอกจากจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแล้วยังช่วยให้อารมณ์ดีและความเครียด และมีความสุขต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายแถมยังฉลาดขึ้นด้วย ทำให้มีแต่คนอยากอยู่ใกล้  ดังนั้นหากอยากเป็นคนที่ไปไหนมีแต่คนรักควรนอนหลับให้เร็วขึ้น

การเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม นอกจากจะช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างเพียงพอแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัย แถมยังคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่า เพิ่มเสน่ห์ของคุณได้อย่างง่ายๆและไม่ต้องเสียเงินแพง ด้วยการนอนหลับให้เต็มอิ่มทุกคืน

5 วิธีดีๆที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วยิ่งขึ้น

5 วิธีดีๆที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วยิ่งขึ้น

https://youtu.be/fjJxjXrwsjM

5 วิธีดีๆที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วยิ่งขึ้น

การนอนหลับฝันดี เป็นเรื่องที่น่าหลงใหลใฝ่ฝันอย่างมากสำหรับคนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ และผู้ป่วยนอนไม่หลับจำนวนมากก็กำลังมองหาทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองนอนหลับได้อย่างรวดเร็วและหลับได้ยาวนานที่สุดในแต่ละคืน  เชื่อว่าก่อนที่จะมาเจอคลิปนี้คุณคงจะเคยได้พบข้อมูลมากมายในอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่เมื่อคุณได้ลองทำตามวิธีการเหล่านั้นแล้ว กลับพบว่า ไม่สามารถหลับได้อย่างรวดเร็วเหมือนที่คาดหวังไว้ ซึ่งคุณอาจเหนื่อยและหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่ หมดห่วงได้เลยค่ะ เพราะต่อไปนี้ sleep story ของเราจะพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณนอนหลับ ที่จะแก้ปัญหาการนอนไม่หลับทั้งหมดของคุณได้เลยทีเดียว

เราทุกคนเข้าใจดีว่านิสัยและกิจวัตรประจำวันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการนอนหลับ ในทำนองเดียวกันองค์ประกอบทางสรีรวิทยาที่เกิดขึ้น ก็เป็นผลมาจาก ความวิตกกังวล ความเครียด หรือภาวะซึมเศร้าในระดับที่มากขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการหลั่งสารสื่อประสาทที่ช่วยในการนอนหลับ ทำให้รบกวนการนอนหลับของคุณ แต่ ต่อไปนี้ คือ

5  เคล็ดลับง่ายๆที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วยิ่งขึ้น ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงจากการวิจัยเรื่องโรคนอนไม่หลับมาหลายปี ได้แก่

1.กินอาหารที่เหมาะสม

หนึ่งในวิธีที่เรียบง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือ การใส่ใจสิ่งที่คุณกินก่อนนอน  อาหารที่เหมาะสมและช่วยเพิ่มความสามารถในการนอนหลับให้เร็วยิ่งขึ้น ได้แก่  อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ถั่วลิสง กล้วย เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนม คุกกี้ ขนมปังโฮลเกรน  อาหารเหล่านี้มีกรดอะมิโนที่เรียกว่า ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายต้องการในการสร้างเมลาโทนิน ที่เป็นสารช่วยเพิ่มการนอนหลับ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนก่อนนอน เนื่องจาก อาหารเหล่านี้จะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนไทโรซีน ที่จะกระตุ้นให้ร่างกายคุณตื่นตัวอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดหรือแกงร้อนๆและลดการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลก่อนนอนด้วย

2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและเร็วขึ้นคือ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักก่อนนอน ซึ่งกฎทั่วไปของการออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ ต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนการนอนหลับ เนื่องจาก ร่างกายจะตื่นตัวและส่งผลให้คุณตาสว่างอีกเป็นเวลานาน เพราะการออกกำลังกายอย่างหนักใกล้เวลานอนนั้นจะลดการหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนิน ทางที่ดีคุณควรจัดเวลาออกกำลังกายเป็นตอนเช้า  ระหว่างวัน หรือหากมีเวลาว่างแค่ตอนเย็นก็ควรวางแผนเรื่องเวลาให้ดี เช่น คุณจะนอนเวลา 4 ทุ่ม คุณควรงดออกกำลังกายหลัง 1 ทุ่ม เป็นต้น

3.นอนหลับให้เป็นเวลา

การนอนหลับให้เป็นเวลาเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ดีที่สุดในการทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น  วิธีนี้ อาจทำไม่ได้ในครั้งแรกๆ แต่จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนจิตใจร่างกายและความมีวินัย จะช่วยปรับนาฬิกาในร่างกายของเราให้เป็นโหมดอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลานอนและตื่น เราก็จะทำงานแบบอัตโนมัติและง่ายดายยิ่งขึ้น

4.สวมใส่ชุดนอนหรือ เสื้อผ้าที่สบายตัว

ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนนอนนั้นเป็นเสื้อผ้าที่สบายตัวรึเปล่า  เนื่องจากเสื้อผ้าก็เป็นตัวการหนึ่งที่รบกวนการนอนหลับและหลายๆคนมักจะมองข้ามไป  เสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับ ควรเป็นเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป เนื้อผ้าควรเหมาะสมกับฤดูกาล เช่นหน้าร้อนควรสวมชุดนอนที่ระบายอากาศได้ดี และหน้าหนาวควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำให้อบอุ่น เป็นต้น  อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรละเลย คือ ที่นอน การนอนบนเตียงที่สบายตัวจะช่วยให้หลับง่ายและหลับได้ลึกยิ่งขึ้น การเลือกหมอนก็ควรเลือกหมอนที่พอดี อย่าเลือกหมอนที่สูงหรือแบนจนเกินไป เพราะจะทำให้ปวดคอและสะดุ้งตื่นบ่อยๆ

5.พยายามลดระดับความเครียด

ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้ามีส่วนทำให้นอนหลับได้ยากมากยิ่งขึ้น  หากคุณเห็นว่าตนเองมีอาการเครียดแบบเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกำจัดความเครียด เข้าช่วยเหลือ

นอกจากทั้ง 5 ข้อนี้ ยังสามารถใช้เทคนิคดีต่างๆเข้าช่วยเพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ เช่น การบำบัดทางพฤติกรรม การเล่นโยคะ หรือใช้สมุนไพรเข้าช่วย เพื่อให้ร่างกายและจิตใจของคุณผ่อนคลายและนอนหลับได้อย่างเป็นสุขตลอดคืน

6 เคล็ดลับกินอย่างไรให้หลับดี

6 เคล็ดลับกินอย่างไรให้หลับดี

https://www.youtube.com/watch?v=qJ6kHV5_9xs

6 เคล็ดลับกินอย่างไรให้หลับดี

การกินหรือไม่กินอาหารหรือเครื่องดื่มบางอย่างก็ช่วยปรับปรุงการนอนหลับได้ ค่ะ วันนี้ sleep story จะมาบอกถึง 6 เคล็ดลับกินอย่างไรให้หลับดีกันค่ะ

1.จำกัดคาเฟอีนในช่วงท้ายๆของวัน พยายามหลีกเลี่ยง กาแฟ ชา น้ำอัดลม รวมไปถึงช็อคโกแลตในตอนเย็นๆยาวไปจนถึงตอนตื่นขึ้นมาอีกวันค่อยทานค่ะ หากต้องการรับประทานคาเฟอีนนะคะ

2.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน หลายคนเข้าใจว่า การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับง่ายและนอนหลับสบาย แต่จริงๆแล้วนะคะ การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายแทนที่จะได้พักผ่อนแล้วฟื้นฟูหรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในแต่ละวัน กลับต้องมาทำงานหนักเพื่อขับของเสียอย่างแอลกอฮอล์ให้ออกจากร่างกาย ทำให้นอนหลับได้ไม่ดี นอนหลับไม่สนิทและรู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอนตลอดเมื่อตื่นขึ้นมาอีกวันค่ะ

3.อย่าปล่อยให้หิวจัด ความหิวก็เป็นส่วนหนึ่งที่รบกวนการนอนหลับของเรา บางรายเวลาหิวจะนอนไม่หลับเลย ดังนั้น ลองทานของว่าง อย่างซีเรียล โยเกิร์ตหรือนมอุ่นๆก็จะช่วยคลายหิวได้ดีค่ะ อีกอย่างการดื่มนมอุ่นๆยังช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนะคะ

4.ลดการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มหวานๆในตอนเย็น เนื่องจากการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว พาสต้าหรือ มันฝรั่งทอดอาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว นอนหลับยาก หรือหลับไปแล้วก็จะหลับไม่สนิทและสะดุ้งตื่นบ่อยๆ

5.หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ๆหรืออาหารรสเผ็ดก่อนนอน เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ทำให้ไม่สบายตัวและนอนไม่หลับได้  พยายามกินอาหารเย็นแค่พออิ่มและควรกินก่อนจะนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงค่ะ

6.ลดปริมาณของการดื่มน้ำก่อนนอน  ถึงแม้ว่าการดื่มน้ำเยอะนั้นจะดีต่อสุขภาพ แต่การดื่มน้ำเยอะๆก่อนนอนจะทำให้คุณต้องตื่นบ่อยๆเพื่อลุกไปฉี่ นั้นทำให้นอนหลับได้ไม่สนิทค่ะ ทางที่ดีนะคะ ควรดื่มน้ำมากๆในช่วงระหว่างวัน และค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆในตอนเย็นและดื่มน้อยๆในตอนกลางคืนค่ะ

จะเห็นได้ว่า บางครั้งการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับได้ เพียงแค่เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินบางอย่างลง ก็จะสามารถช่วยให้เราไม่ต้องมาคอยหงุดหงิดกับปัญหานอนไม่หลับหรือนอนไม่พออีกต่อไปค่ะ

นอนไม่หลับ ต้องดู 7 เทคนิคง่ายๆที่จะเปลี่ยนให้คุณนอนหลับได้ดีตลอดไป

นอนไม่หลับ ต้องดู 7 เทคนิคง่ายๆที่จะเปลี่ยนให้คุณนอนหลับได้ดีตลอดไป

https://youtu.be/oSe0KeZk6VI

นอนไม่หลับ ต้องดู 7 เทคนิคง่ายๆที่จะเปลี่ยนให้คุณนอนหลับได้ดีตลอดไป

หากคุณกำลังเจอปัญหานอนไม่หลับและไม่รู้จะทำอย่างไร เรามีเทคนิคดีๆ 7 ข้อที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายๆ และไม่ต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์เสริมใดๆทั้งสิ้นค่ะ

1.เพิ่มระดับการสร้างเมลาโทนินโดยธรรมชาติ พูดถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยนะคะว่าเราจะสามารถเพิ่มระดับของเมลาโทนินได้อย่างไร  จริงๆการเพิ่มเมลาโทนินนั้นก็ทำได้ง่ายๆค่ะ แค่ พยายามหลีกเลี่ยงแสงไฟประดิษฐ์ในตอนกลางคืนให้มากที่สุด โดยเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟกำลังต่ำในห้องนอน รวมไปถึง ปิดทีวี คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอย่างน้อยๆ 1 ชั่วโมงก่อนนอน

2.ทำห้องนอนให้มืดและเงียบสนิท พยายามเลือกหมอน ที่นอน หรือผ้าห่มที่นุ่มและสัมผัสสบายตัวที่สุด หากร้อนก็ควรเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ หรือเปิดแอร์  แต่หากนอกบ้านมีแสงสว่างหรือมีเสียงดังรบกวนแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ บางครั้งการใช้ที่อุดหูแล้วนอนก็จะพอช่วยลดเสียงและแสงลงได้

3.ทำห้องนอนให้เป็นเฉพาะที่นอนหลับพักผ่อนเท่านั้น ไม่เอาทีวี คอมพิวเตอร์ มือถือ เครื่องเสียง หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆเข้าไปไว้ในห้องนอนเพราะอาจจะรบกวนการนอนหลับได้

4.ไม่ควรมีนาฬิกาในห้องนอน อย่างที่บอกไปในข้อก่อนหน้านี้นะคะ ว่า ต้องให้ห้องนอนนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับการนอน การที่แขวนนาฬิกาไว้ในห้องนอน บางครั้ง เสียงเดินของนาฬิกาอาจจะทำให้นอนไม่หลับได้

5.พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันเสมอๆ เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตให้เป็นอัตโนมัติ หากทำไปบ่อยๆแล้ว เมื่อถึงเวลานอน เราก็จะง่วงนอนเองโดยธรรมชาติ จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

6.ฝึกการผ่อนคลายก่อนเข้านอน โดยใช้เวลาว่างๆก่อนนอนสัก 1 ชั่วโมง เพื่อทำการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เช่น อาบน้ำ เล่นดนตรีหรือฟังดนตรีเบาๆ ทำสมาธิหรือฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ ก็จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

7.เมื่อนอนไม่หลับ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ  ยานอนหลับ หลายคนอาจคิดว่านอนไม่หลับก็ต้องกินยานอนหลับจะได้นอนหลับได้ มันจริงในช่วงแรกๆเท่านั้นค่ะ ขึ้นชื่อว่ายาเมื่อกินไปนานๆมันก็จะมีผลข้างเคียงเสมอ และการใช้ยานอนหลับไปนานๆอาจจะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้นกว่าเดิม ทางที่ดี ควรปรับเปลี่ยนอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา จะช่วยให้เรารักษาการนอนไม่หลับได้อย่างยั่งยืนและไม่เสียสุขภาพด้วยค่ะ

9 สาเหตุและปัญหาที่พบบ่อยในการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุ

9 สาเหตุและปัญหาที่พบบ่อยในการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุ

https://youtu.be/Ee6NXo7TgKs

9 สาเหตุและปัญหาที่พบบ่อยในการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุ

จากที่เรารู้กันดีนะคะว่า ในวัยผู้สูงอายุจะนอนหลับได้ยากและมีการนอนหลับลึกๆและนานๆได้น้อยกว่าเด็กๆแต่ไม่ว่ายังไงก็ตามถึงจะนอนหลับได้ยากแต่เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ผู้สูงอายุ ควรได้รับการนอนหลับพักผ่อน 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะหากนอนหลับน้อยกว่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายของเซลล์รวมไปถึงการฟื้นฟูของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่นอนหลับไม่เพียงพอยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆตามมาได้

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่เคยเอะใจว่าจริงๆแล้ว สาเหตุของการนอนไม่หลับในวัยผู้สูงอายุนั้นเกิดมาจากอะไรกันบ้าง  ซึ่งวันนี้ทาง sleep story  ของเราก็จะมาบอกถึง 9 สาเหตุและปัญหาที่พบบ่อยในการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุ เผื่อว่า เรารู้สาเหตุ เราจะได้หาหนทางออกที่ดีได้ง่ายๆค่ะ ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่

1.นิสัยการนอนหลับรวมถึงสภาพแวดล้อมในการนอนหลับที่ไม่ดี เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน การเล่นมือถือก่อนนอน รวมไปถึงการนอนหลับไปพร้อมๆกับการเปิดโทรทัศน์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ดังนั้นนะคะ ก่อนนอน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าภายในห้องนอนอากาศสบายเงียบสงบและมืดสนิท สิ่งเหล่านี้จะช่วยเอื้อต่อการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น

2.อาการเจ็บปวดทางร่างกายหรือภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น การปวดปัสสาวะบ่อยๆ ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเอว รวมไปถึงภาวะสุขภาพต่างๆ เช่น อาการหอบหืด โรคเบาหวาน โรคที่เกี่ยวกับกระดูก  รวมไปถึงโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งอาการต่างๆเหล่านี้ก็มักจะรบกวนการนอนหลับได้ ดังนั้นการปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาก็จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ค่ะ

3.วัยหมดประจำเดือน หรือวัยทอง ผู้หญิงในช่วงวัยนี้หลายคน พบว่ามีอาการร้อนวูบวาบและมีเหงื่อออกในตอนกลางคืน ซึ่งก็ทำให้นอนหลับได้ไม่ค่อยดีเท่าไร ทางออกสำหรับวัยนี้ การปรับเปลี่ยนอาหารที่ทานในระหว่างวันและออกกำลังกายร่วมด้วยก็จะช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

4.ผลจากการใช้ยา ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่นะคะ มีแนวโน้มที่จะใช้ยามากกว่าคนวัยอื่นๆ ซึ่งยาเหล่านี้ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ  ดังนั้นสำหรับผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้ยาบ่อยๆ ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาบางอย่าง เพื่อช่วยปรับปรุงการนอนหลับค่ะ

5.การไม่ยอมออกกำลังกาย หรือ ขาดการออกกำลังกาย การอยู่นิ่งๆหรืออยู่ประจำที่มากเกินไปก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนไม่หลับได้  โดยทางออกที่ดีก็คือ พยายามออกกำลังกายเป็นประจำในแต่ละวัน อาจจะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค โยคะ ไทเก๊ก ชี่กง หรือการออกำลังกายแบบอื่นๆบ้างทุกวัน ก็จะช่วยให้การนอนหลับนั้นง่ายและดีขึ้นค่ะ

6.ความเครียด  ความเครียดมักจะเป็นปัญหาของคนทุกวัย ที่ไม่ใช่เฉพาะแค่วัยสูงอายุเท่านั้น และเจ้าความเครียดนี่แหละที่มีผลอย่างมากกับการนอนไม่หลับ  ทางออกที่ดีคือ พยายามทำจิตใจให้สบาย หากมีปัญหาที่ไม่สามารถหาทางแก้ได้คนเดียวก็จำเป็นที่จะต้องปรึกษาหรือหาใครสักคนที่จะสามารถพูดคุยด้วยได้ อาจจะเป็น ลูก หลาน หรือคู่ชีวิต ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนหรือคุณหมอก็ได้ค่ะ เพราะการที่เราได้พูดคุยบางอย่างออกไปมันจะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นและช่วยลดความตึงเครียดลงได้

7.ขาดการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคม กิจกรรมกับทางครอบครัวหรือทางสังคมต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของทั้งร่างกายและจิตใจสูงขึ้น และช่วยให้พักผ่อนนอนหลับได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นหากคุณอยู่ในวัยที่เกษียณแล้ว ให้ลองเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนต่างๆ เช่น อาสาสมัครปลูกต้นไม้ ให้ความรู้ ฯลฯ ก็จะช่วยได้เยอะค่ะ

8.การนอนกรน หรือโรคหยุดหายใจขณะหลับ ปัญหานี้พบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุ สำหรับผู้ที่นอนกรนหรือมีปัญหาหยุดหายใจขณะหลับ บางครั้งถึงแม้ว่าจะได้นอนหลับ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็จะหลับได้ไม่สนิทอีกทั้งยังสะดุ้งตื่นบ่อยๆทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มที่ หนทางแก้ที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการนอนกรนและโรคหยุดหายใจขณะหลับค่ะ

9.ขาดการสัมผัสกับแสงแดด แสงแดดที่อบอุ่นและสดใสนะคะจะช่วยควบคุมเมลาโทนินและรอบการนอนหลับในแต่ละคืนของเรา จะเห็นได้ว่า คนที่ไม่ได้พบเจอแสงแดดจะมีปัญหาการนอนหลับได้มากกว่าคนที่ตากแดด ดังนั้น พยายามพาร่างกายออกไปรับสงแดดอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แล้วจะพบว่านอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ

สำหรับผู้สูงอายุที่รู้สึกอ่อนเพลียเนื่องจากนอนหลับไม่เพียงพอนะคะ เราขอแนะนำให้คุณผู้สูงอายุทุกท่าน งีบหลับในตอนกลางวันบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวจะได้สดชื่นขึ้น ซึ่งเคล็ดลับในการงีบหลับนั้นคือ ให้งีบหลับเพียงแค่สั้นๆ ประมาณ 5 นาที เพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัวและได้รับประโยชน์จากการงีบหลับมากที่สุด แต่พยายามอย่างีบนานเกินไป เช่น 15-45 นาที การงีบที่นานเกินไปอาจทำให้รู้สึกมึนงงและไม่มีสมาธิได้ค่ะ และพยายามเลือกเวลางีบหลับในตอนเช้าๆ-สายๆ อย่าเลือกงีบหลับตอนบ่ายนะคะเพราะการงีบตอนบ่ายนั้นอาจจะทำให้การนอนหลับในตอนกลางคืนยากขึ้นไปอีกค่ะ